How To ผ่าน N1 ในครั้งแรกที่สอบ
How To ผ่าน N1 ในครั้งแรกที่สอบ
วิธีการเตรียมตัวสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น(JLPT)ขั้นสุดท้ายในเวลา 2 เดือน
ในบทความนี้เราจะมาแชร์วิธีการเตรียมตัวสอบที่เราคิดเอง ใช้เอง และก็ได้ผลลัพธ์มาอย่างที่เห็นด้านล่าง ก็เลยคิด(ไป)เองว่าน่าจะได้ผลกับคนออื่นๆด้วยเหมือนกัน :-)
(เช็กผลสอบ) ณ หน้าจอที่ระบุผลสอบ
ค่อยๆเปิดออกทีละนิด โอ้ย ลุ้นไม่ไหว เปิดเลยแล้วกัน!
ใ น ที่ สุ ด ก็ ไ ด้ N 1 มา ค ร อ บ ค ร อ ง !
สำหรับ N1 จะต้องได้ 19 คะแนนขึ้นไปในแต่ละพาร์ท และคะแนนรวมถึง 100 ขึ้นไป ถึงจะนับว่าผ่าน ซึ่งคะแนน reading ก็ไม่ค่อยจะสวยเท่าไรเพราะอ่านไม่ทันไปสองเรื่อง แต่ก็รอดมาได้
กว่าจะถึงวันนี้…เสียหายไปเท่าไรกับการเรียนภาษาญี่ปุ่น(มาก!) แต่ไม่เคยเสียดายเลยเว้ย!
📌เข้าเรื่องตรงนี้
ทำอะไรบ้างก่อนสอบ N1?
บอกก่อนว่าอ่านสอบ N1 ด้วยตัวเองเกือบทั้งหมด แต่จะมีติว reading กับพี่ที่มีประสบการณ์สอบได้คะแนนเต็มในพาร์ท reading ด้วย เพราะฉะนั้นวิธีอ่านเตรียมสอบนี่ก็คิดเอาเอง อาจจะเวิร์คหรือไม่เวิร์คกับคนอื่นก็ได้
ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เราเพิ่งกลับมาอยู่ไทย(ไปเรียนภาษามาประมาณ 1 ปี) ก็เหลือเวลา 2 เดือนก่อนสอบพอดี คิดว่าน้อยมากเพราะไม่ได้อ่านมาก่อนเลย ตอนเรียนก็เรียนในห้องที่สอนระดับ N2 ซึ่งก็เป็นห้องที่สูงสุดแล้ว เนื่องจากนักเรียนที่จะรวมเป็นห้อง N1 มันไม่พอเลยก็เลยต้องเรียนรวมกันไป
เราคิดไว้ก่อนว่า “ถ้าจะสอบแล้วต้องผ่าน” ใจจะได้ฮึกเหิม ไม่ปวกเปียกคิดว่าครั้งหน้าค่อยเอาใหม่ คือต้องมีวินัยกับตัวเองในการอ่านหนักๆช่วงหนึ่งเลย อ่านทุกวันตลอด 2 เดือนจริงๆ เนี่ยยเหมาะกับช่วงกักตัวแบบนี้สุดๆ
อ่านตรงนี้ก่อนๆ
ออกตัวก่อนว่าเรายังไม่เก่งไม่ได้พูดคล่องปรือ ประสบการณ์ล่ามก็ไม่ได้มากมายอะไร แต่เราก็สอบผ่านมาได้แล้วทุกคน เพราะฉะนั้นเราเชื่อว่าทุกคนก็จะสอบผ่านได้เช่นกัน โดยเฉพาะพี่ๆชาวล่ามทั้งหลาย ถึงเราจะมี N1 แต่เรายังพูดไม่ได้ขนาดพี่ๆเลย ถ้าเราผ่านเชื่อว่าทุกคนก็เอาอยู่หมดแหละ
วิธีอ่านของเราแบ่งออกเป็น 2 ช่วงคือ
- อ่านและทำความเข้าใจ(input) — 1 เดือนแรก
- ทำแบบฝึกหัดและทบทวน(output)ー 1 เดือนหลัง
✍🏼VOCABS คือพื้นฐาน
ส่วนตัวเราคิดว่า vocabs สำคัญที่สุด เพราะมันต้องใช้ทุกพาร์ทเลย
- ไม่รู้ศัพท์ก็ไม่เข้าใจบทสนทนาใน listening
- ไม่เข้าใจบทความใน reading
- และการรู้ศัพท์จะช่วยเดา grammar ที่เราไม่รู้ได้ด้วย
พอเลือกได้ว่าจะอ่านศัพท์ก่อน ก็หาหนังสือศัพท์มาอ่านแต่อยู่ๆจะดุ่มๆอ่านไม่ได้ “ต้องบริหารเวลา” ตอนนั้นเราเหลือเวลาอยู่ 2 เดือนพอดีก่อนถึงวันสอบ (1 ธ.ค. 2019) ก็ค่อนข้างกระชั้นชิด แต่มันเร็วไปที่จะยอมแพ้!
หนังสือที่ใช้
เราเริ่มอ่านเล่มนี้ はじめての日本語能力 N1 単語 3000 เป็นเล่มแรก แต่มีคนบอกว่าอ่านเล่ม スピードマスター 2800 ดีกว่า เราก็เลยลองอ่านด้วยนิดหน่อยตอนใกล้ๆสอบแล้ว แต่ไม่ค่อยมีเวลาแล้วก็เลยใช้วิธีฟัง CD แทน
อ่านศัพท์ 3,000 คำ ใน 2 สัปดาห์!
ศัพท์ 3,000 คำ แบ่งอ่านยังไงดี? มี 14 บท อ่ะ! งั้นวันละบทไปเลย! ก็ตกวันละประมาณ 200 กว่าคำ…แต่ไม่อยากให้ไปคิดถึงเรื่องนั้น เราไม่ได้จำได้ทุกคำหรอก แต่เราต้องให้มันผ่านตาเราสักครั้ง แต่ก็ไม่ใช่เปิดผ่าน ต้องพยายามเข้าใจที่มาที่ไป การใช้งาน ตอนที่เราหาข้อมูลหาที่มามันจะค่อยๆซึมไปเองอยู่แล้ว
🔑 How to
อ่านวันละ 1 บทให้เข้าใจ แล้วพิมพ์ใส่แอพ flashcard ในมือถือเพื่อจะได้ทวนซ้ำๆเวลาว่างๆเช่นตอนเดินทาง ขึ้นลิฟต์ ขึ้นรถไฟฟ้า รออาหารมาเสิร์ฟ ฯลฯ
อ่านผ่านตา ทำไมเราคิดว่าวิธีนี้จะเวิร์ค?
เพราะเราดู tedtalk ของคนนี้ เกี่ยวกับการบันทึกความจำของสมอง ประเด็นที่เราสนใจคือส่วนที่เขาบอกว่า
“ความแม่นยำของการจำขึ้นอยู่กับความถี่ในการเจอคำนั้นๆ”
แล้วเราคิดว่าการลำดับให้อ่านศัพท์ก่อนจะทำให้เราไปอ่านส่วนอื่นง่ายขึ้น เพราะเราจะต้องเจอคำศัพท์เดิมหรือคำคล้ายๆกันในส่วน reading และ grammar อีกอยู่แล้วไม่ต้องรีบจำได้ก็ได้แล้วเราจะกลับมาทวนคำศัพท์อีกครั้งในสัปดาห์สุดท้ายก่อนวันสอบโดยจะเช็กความเข้าใจด้วยการ “ติ๊ก”
☑ติ๊กคำที่เข้าใจหรือรู้ความหมายโดยไม่ดูคำแปล
⏰ : ใช้เวลาอ่าน vocabs ไป 2 สัปดาห์
>> เหลือเวลาอีก 7 สัปดาห์
✍🏼GRAMMAR ผิดชีวิตเปลี่ยน
นอกจาก vocabs แล้ว สิ่งที่ควรต้องรู้อีกอย่างก่อนจะเริ่มทำแบบฝึกหัดก็คือไวยากรณ์ ถ้าแม่นไวยากรณ์ เราก็จะทำ reading ได้คล่องแคล่วด้วย
ข้อควรระวังในการอ่านไวยากรณ์ N1 คือ “การเข้าใจไม่จริง”
เพราะในระดับ N1 เราจะต้องเข้าใจไวยากรณ์ทุกระดับมาแล้ว และที่ท้าทายกว่าคือเราจะต้องเข้าใจความแตกต่างของไวยากรณ์ที่คล้ายกัน หรือไวยากรณ์ที่ใช้แทนกันได้
- ไวยากรณ์หน้าตาคล้าย เช่น
といえば ⚡️とはいえ
次第 ⚡️ 次第だ
ないではいられない ⚡️ないではおかない - ไวยากรณ์ที่ใช้ในสถานการณ์คล้ายกันหรือความหมายใกล้เคียงกัน เช่น
からみて ⚡️ことから
かたがた⚡️がてら
ถึงแม้การทำความเข้าใจไวยากรณ์จะใช้พลังสมองมากก็ตาม แต่ถ้าเราแยกแยะความแตกต่างของไวยากรณ์ที่คล้ายกันเหล่านี้ได้ พาร์ทไวยากรณ์ก็จะไม่ยากเกินเอื้อม!
หนังสือที่ใช้
🔑 How to:
สำหรับคนไม่มีเวลา แนะนำปริ้น similar sentence pattern list กับ list รวมไวยากรณ์ตั้งแต่ あ ถึง を ที่อยู่ท้ายหนังสือออกมา ตัวไหนเข้าใจแล้วก็ข้ามไปได้ ตัวไหนไม่เข้าใจค่อยอ่านและจดไว้ในแผ่นนั้นเลย (เราแนะนำให้ดูคำอธิบายในคลิปและในพจนานุกรมไวยากรณ์เพิ่มด้วย*)
เราเลือกอ่านเล่ม TRY N1 ทั้งเล่มซึ่งอันนี้เราไม่ได้กำหนดไว้ว่าอ่านวันละกี่บท แค่ทดไว้ในใจว่าจะให้ 1 สัปดาห์เป็น intensive grammar week
เพราะอยากโฟกัสกับไวยากรณ์แต่ละตัวมากๆ ส่วนใหญ่คำอธิบายในหนังสือจะไม่เพียงพอ เราดูประโยคตัวอย่างจากในเนตเพิ่มหรือไม่ก็ดูคลิปที่อธิบายไวยากรณ์ตัวนั้น แล้วจดออกมาใส่กระดาษตามความเข้าใจตัวเอง
ส่วนตัวเราเน้นว่าจดใส่กระดาษ เป็นกระดาษ reuse ด้วย เพราะเรารู้สึกว่าอยากให้การจดนี้ “เน้นความเข้าใจไม่เน้นสวย” เละเทะในแบบที่ตัวเองเข้าใจได้เลย ถ้าเราจดใส่หนังสืออาจจะทำให้เรากังวลว่าจะต้องลำดับการจดอย่างไรให้ออกมาดี (ถ้ามีเวลามากๆจะจดใส่สมุดไว้ให้เป็นเรื่องเป็นราวก็แล้วแต่ชอบเลย)
Tips: ไม่ต้องจดสรุปเก่งก็ได้ แค่ให้ได้เขียนออกมาจะได้โฟกัสกับมัน การเขียนจะช่วยให้เราจำได้มากขึ้นด้วย อย่างในรูปอันนี้เราแค่อยากจดตัวอย่างประโยคที่ดูในคลิปกับเจอในหนังสือออกมา พยายามหาสมการของมัน
🍄 สุดท้ายอ่านตารางเปรียบเทียบไวยากรณ์ที่คล้ายกัน(รวมตั้งแต่N3-N1)อยู่ท้ายเล่ม TRY N1 มีประโยชน์มากกกกกกกกก
ตอนแรกกะว่าจะแค่เอามาดูผ่านๆ เช็กอันที่ไม่เข้าใจ แต่ไปๆมาๆรู้สึกว่าควรจดสรุปสั้นๆไว้แต่ละอัน เวลาลืมก็มาดูแผ่นนี้เหมือนเป็นคู่มือได้เลย ก็เลยปริ้นออกมาเขียน
พวกคำอธิบายไวยากรณ์เราดูในหนังสือ TRY N1 ด้วย ในเนตด้วย เปิดดูในพจนานุกรมรวมไวยากรณ์ด้วย ถ้าไม่เข้าใจจริงๆจะไปถามเจ้าของภาษา(เปิดดิกแล้วแต่ก็ยังไม่เข้าใจความหมายทำยังไงดี?)
สรุป: อ่าน TRY N1, จดตามความเข้าใจใส่กระดาษ, อ่านตารางเปรียบเทียบเช็กความเข้าใจ, ดูคลิป nihongo no mori*, เปิดดูความหมายในพจนานุกรมไวยากรณ์*
⏰ : ใช้เวลากับไวยากรณ์อีกประมาณ 1 สัปดาห์
>>เหลือเวลา 6 สัปดาห์
✍🏼KANJI นั้นสำคัญไฉน
อ่านศัพท์ไปแล้วก็จริงแต่ไม่ได้อ่าน kanji มันไม่อุ่นใจ แล้วบอกเลยว่าศัพท์ที่ได้จากคันจิ เจอในพาร์ทคำศัพท์เยอะมาก!(ถึงจะอ่านไม่จบก็ตาม)
-หนังสือที่ใช้-
新完全マスター漢字 N1
แนะนำเล่มนี้ แต่เราอ่านไม่จบนะ อ่านถึงประมาณบท 9 ซึ่งส่วนใหญ่เป็น verb ซึ่งก็คิดว่าโชคดีที่ในข้อสอบออกมาเยอะเลย
🔑 How to:
เราซีรอกหน้าที่เราอยากจะอ่านออกมา จะได้พกพาไปอ่านได้ทุกที่ สะดวกๆ แล้วก็จดง่ายกว่าด้วยเพราะจะได้พื้นที่หน้าคำมาจดเพิ่ม
⏰ ใช้เวลาอ่าน kanji อีกประมาณ 1 สัปดาห์
>>เหลือเวลา 5 สัปดาห์
📌ครึ่งทางแล้ว!
💪🏼DO IT ทำตัวอย่างข้อสอบเยอะๆ
1 เดือนสุดท้ายก่อนสอบละเราจะต้องฝึกทำข้อสอบให้ได้มากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ ฝึกดึง input ออกมาใช้
-หนังสือที่ใช้-
合格できる日本語能力試験 N1 กับ 日本語能力試験スーパー模試*
💪🏼LEARN WITH PRO
วิธีการเรียนที่ดีที่สุดอีกวิธีก็คือเรียนกับคนที่ผ่านมาแล้ว
คำศัพท์เอย ไวยากรณ์เอย เป็นสิ่งที่ศึกษาเองได้ แต่ในส่วนของ reading เราไม่ค่อยมั่นใจเท่าไร เห็นคนตกม้าตายเพราะพาร์ทนี้มาก็หลายคน ก็อย่างที่ทุกคนเห็นคะแนนเรา reading คือน้อยที่สุดแล้ว เพราะงั้นเราก็คิดๆอยู่แหละว่าจะถามใครสักคน ประจวบเหมาะกับตอนนั้นมีพี่คนนึงมาโพสต์รับติว reading N1 โดยเฉพาะ เรียน 10 ครั้งครั้งละ 3 ชม ที่เรียนก็ไม่ไกลเท่าไรก็เลยทักไปถามดู จริงๆตอนนั้นเราเองก็มีสอนภาษาญี่ปุ่นอยู่เหมือนกัน ไหนจะอ่านเอง ไหนจะเตรียมสอน ก็คิดว่าต้องคำนวณเวลาดีๆว่ามันจะไหวมั้ย แต่พี่เขาไม่ได้ธรรมดา ดีกรี reading 60/60 เราก็คิดว่าคุ้มวะ! แล้วก็คุ้มจริงๆนะเพราะได้เทคนิคมาเยอะ ใครอยากรู้เทคนิคต้องไปเรียนกับพี่เขาเองน้า เราถือว่าเทคนิคของเขาก็ถือเป็นทรัพย์สินทางปัญญาเนอะ แต่บอกได้ว่าเรียนหนังสือเล่มนี้ 日本語能力試験 N1読解 必修パターン มีหลายๆ pattern ให้ลองทำทั้งยากทั้งง่ายปนๆกัน ใครสนใจเรียนก็ติดต่อ เพจติวN1ผู้สอนคะแนนเต็มพาร์ทอ่านเลย
📌จบแล้วจ้า!
หนังสือ youtube channel และ app ที่เราใช้ตอนอ่านสอบที่เราใช้ตอนสอบ N1
สรุป(มั้ง)
VOCABS
- อ่านศัพท์ ‘N1เล่มนกฮูก 3,000 คำ’ ให้จบเล่ม (ผ่านๆตา)
⏰ 2 สัปดาห์แรก - ใช้แอพสร้าง flashcard คำศัพท์ไว้ในมือถือ อ่านเมื่อว่าง อ่านเมื่อลืม
⏰ ตั้งแต่เริ่มอ่านจนถึงวันสอบ
GRAMMAR
- อ่านเล่ม ‘TRY N1’
⏰ ประมาณ 1 สัปดาห์(หลังอ่านศัพท์จบก็เริ่มอ่านเลย) - ปริ้น ☑︎ checklist แกรมม่าออกมา
⏰ อันนี้เรามาทำประมาณอาทิตย์สุดท้ายก่อนสอบเพราะเพิ่งคิดได้ แต่มันเวิร์คมากๆ
LISTENING
(เป็นส่วนที่ไม่รู้จะแนะนำเป็นขั้นเป็นตอนยังไงแต่ที่พอจะแยกรูปแบบออกมาได้ก็คงจะประมาณนี้)
- ดูอะไรก็ได้ที่อยากดูเป็นภาษาญี่ปุ่น ถือเป็นการผ่อนคลายไปในตัวด้วย
(เราว่าการฟังเป็นพาร์ทที่ต้องให้สมองเขาโล่งๆจะได้รับข้อมูลได้ดี)
⏰ เวลาที่อยากผ่อนคลายแต่ก็รู้ว่าต้องเตรียมตัวสอบ - ทำแบบฝึกหัดการฟังในเล่ม ‘合格できるN1’ กับ スーパー模試N1 (อันหลังเราเปิดฟังเวลาที่ไม่สามารถหยิบหนังสือมาอ่านได้ เช่นอยู่บนรถไฟฟ้า หรือไม่มีหนังสือติดตัว)
⏰ จริงๆอันนี้ไม่ได้กำหนดเลย อยากหยิบมาทำตอนไหนก็ทำ
KANJI
- ‘新完成マスター漢字N1’
⏰อยากอ่านให้จบนะแต่ได้ถึงแค่บท 9 แล้วก็ไปทำแบบฝึกหัดกับ reading เยอะๆแทน - ตั้งค่ามือถือให้เป็นภาษาญี่ปุ่น เพื่อความคุ้นชิน เวลาเห็นคำก็ให้นึกเสียงอ่านขึ้นมาในหัวด้วยเสมอ(วิธีนี้จะได้ทั้ง listening และ kanji)
READING
- อ่านเล่ม ‘日本語能力試験徹底トレーニング N1 読解’
(ไม่ได้ทำเรียงกัน เลือกทำรูปแบบละ2–3ข้อ ให้เวลาความเข้าใจส่วนที่ตอบผิด) - เรียนกับพี่ที่มีประสบการณ์สอบreading60/60 ใช้หนังสือ 日本語能力試験 N1読解 必修パターン
⏰ ทั้งหมด 30 ชม.
อื่นๆที่ดูหรือฟังช่วงเตรียมสอบ
Vocabs
日本語単語スピードマスター Part1
日本語単語スピードマスター Part2
Grammar playlist
JLPT N1 Grammar /Hina Sensei
Japanese language lessons! JLPT N1 Grammar /Kawama Sensei
Japanese lesson JLPT N1 文法 実践問題/Yuha Sensei
คำเลียนเสียงธรรมชาติ หรือคำเลียนสภาพ
เช่น すやすや ぱりぱり つるつる
オノマトペ(擬態語・擬声語)/Noriko Sensei
ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่อ่านกันมาที่ตรงนี้ หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์นะคะ ถ้าชอบฝากกด clap ให้กำลังใจกันหน่อยค้าบ ไว้พบกันใหม่ :-)
Follow me at
Instagram : gonggong.channel
Twitter: gonggong.channel
Facebook page: gonggong.channel